Friday, May 15, 2009

การปฎิวัติไม่ใช่การรอผลแอปเปิลร่วมเพราะมันสุกงอม แต่เราต้องทำให้มันเกิดขึ้น

การปฎิวัติไม่ใช่การรอผลแอปเปิลร่วมเพราะมันสุกงอม แต่เราต้องทำให้มันเกิดขึ้น
โพสต์โดย : piangdin
ID # 797233 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 00:21:28 _ ปิดข้อความ แก้ไข




ผมคิดอยู่ว่าจะเลือก avatar ใหม่ เป็นคานธี หรือเช เกววาร่า ดี
ชอบท่านคานธี และเอาปรัชญาการต่อสู้ของท่านมาใส่บนหัว
แต่ผมคิดว่า ท่านคานธี ต้องอดทน ไม่ต่างจากพจมาน จากบ้านทรายทอง

ในที่สุดผมก็มาลงเอยที่ เช เกววาร่า
ผมไม่ได้ชอบที่เขาใช้ความรุนแรง แต่ก็อดที่จะเห็นด้วยไม่ได้
ว่าการปฎิวัติแบบกองโจรเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
อดเห็นด้วยไม่ได้ว่า การปฎิวัติต้องให้มวลชนลุกขึ้นด้วยตัวเอง
พัฒนายุทธวิธีด้วยตนเอง ประชาชนต้องลุกขึ้นมาทำด้วยตนเอง
ข้อแตกต่างของผมกับเช ก็คือ ผมไม่คิดว่าเราจำเป็นต้องใช้
กองกำลังแบบกองโจร แล้วฆ่าฟันด้วยการติดอาวุธที่ทำลายล้าง
เช่น ปืน ระเบิด และอาวุธอื่น ๆ
แต่การต่อสุ้ที่ผมคิดว่าต้องทำ ก็คือ ต้องรุนแรง เจ็บปวด
แต่อยู่บนพื้นฐานของความจริง และเป้าหมายที่เด็ดขาด
รวมท้งวิธีการที่แยบยล แต่ทั้งหมดนี้ หากผิดกฎหมาย
ก็ไม่ควรทำลายล้างประเทศชาติ แต่ต้องทำลายล้างระบบชั่ว
และคนชั่ว และต้องไม่ให้จับได้ ที่สำคัญต้องเน้น
ความแยบยล รุนแรง และชัดคมแบบอารยวิธี
และรักษาความเป็นนิติรัฐเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
และอาวุธที่ใช้ จะไม่ใช่อาวุธแบบที่เชใช้
แต่เป็นอาวุธทางปัญญา อาวุธความจริง
อาวุธที่แฝงอยู่ในตัวมวลชนมหาศาล

ผมยังไม่พร้อมที่จะกระโจนลงมาเต็มที่
แต่ผมเริ่มเดินทางพร้อมกับวิญญาณปรัชญาของคานธีและเช อย่างมั่นคง
คู่เคียงร่วมก้าว กับ ชาวดิน ตลอดไปครับ...




โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721510 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 00:33:59 _ ปิดข้อความ แก้ไข


ภาพที่ท่านเห็น เป็นภาพถ่ายเชก่อนเขาเสียชีวิตไม่กี่เดือน
เขาเข้าไปประเทศโบลิเวีย เพื่อช่วยก่อการปฎิวัติต่อต้านรัฐบาล
ที่กดขี่ฉ้อฉลจนประเทศหมดโอกาสก้าวหน้าและประชายากจนแบบโงหัวไม่ขึ้น

เชเป็นคนโหดเ*****้ยมมากสำหรับผู้ร่วมทางที่ไม่มีวินัย
แต่เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์สำหรับสหายร่วมทัพยามที่เขาพักผ่อน
เขาทำงานหนัก อุทิศเพื่อต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหง

เขาน่าจะมีชีวิตสบาย ๆ เพราะเรียนจบหมอจากอาร์เจนติน่า
แต่จากการท่องเที่ยวบนจักรยานทั่วลาตินอเมริกา ทำให้เขาได้
เกิดความเชื่อว่า รัฐบาลและกลุ่มผลประโยชน์ของประเทศด้อยพัฒนา
เหล่านั้น ไม่มีทางคืนความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน และพวกเขา
จะยอมรับลัทธิวัตถุนิยมหรือทุนนิยม และจักรวรรดินิยมที่ถูก
ผลักดันโดยอเมริกาและประเทศตะวันตก โดยฉกฉวยผลประโยชน์
เฉพาะกลุ่ม แล้วก็ไม่เคยเหลียวแลประชาชนผู้ยากจน ผ่ายผอม
ไร้โอกาส และไม่สามารถแม้แต่จะอยู่อย่างพอเพียงได้
ด้วยความเข้าใจดังกล่าว เขาเกิดเจตนาอันแรงกล้าที่จะ
ช่วยประเทศต่าง ๆ ในอเมริกากลางและใต้ ด้วยการไปปลุกให้เกิด
การปฎิวัติโดยประชาชนทุกท้องที่ ที่ลุกขึ้นมาต้านอำนาจรัฐ

ในความรุนแรงของวิธีการและความโหดในตัวเขา กลับมีความอ่อนโยน
และเมตตาธรรมอันสูงยิ่ง เช จึงเป็นภาพลักษณ์อันโรแมนติคและ
เร้าใจสำหรับนักปฎิวัติ wanna-be ทั้งหลาย แต่คนที่เอาเชมาเป็นสัญลักษณ์
นั้น หากคุณไม่เข้าใจคนรากหญ้า คุณไม่มีเมตตาธรรมอันสูงสุด และ
ไม่มีอุดมการณ์อันแรงกล้า คุณจะไม่มีทางทิ้งอาชีพหมอ แล้วไปนอน
กลางดินกินกลางเดือนร่วมกับชาวบ้านผู้ยากไร้ เพียงหวังจะให้ชีวิตพวกเขา
ดีขึ้น

เช ในหลายบทบาท จึงเป็นพระเอกคนหนึ่งในใจสีแดงของผม
ตลอดไป...





โพสต์โดย : RED CLOWN
ID # 1721513 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 00:39:34 _ ปิดข้อความ


ค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณเพียงดิน.......
แต่ปัญหาใหญ่ที่เจอ ก็คือ ..คนไทยมักบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องปวดหัว ..ไม่เข้าข้างไหนทั้งนั้น ไม่ว่า แดงหรือเหลือง....(อันนี้จากการสอบถามผู้คนรอบข้าง)
เราเลยตั้งคำถามว่า ..ถ้าคุณพบเหตุการณ์ คนถูกจี้ คุณจะทำอย่างไร....ดูเฉยๆ หรือ หาวิธีช่วยเหลือ.....




โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721515 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 00:40:25 _ ปิดข้อความ แก้ไข


วันนี้ เราคงตระหนักกันได้แล้วว่า รัฐบาลทรราชหน้าด้าน
อำมาตยชนที่ฝังรากลึกใต้ฐานระบอบที่ฉ้อฉลเหยียบย่ำประชาชน
และกลุ่มผลประโยชน์ที่หวงระบอบ เพราะไม่อยากให้คนรากหญ้าส่วนใหญ่
เกิดการกินดีอยู่ดี มีโอกาสทางการงานและการศึกษา และเราไม่มีทาง
ได้ระบอบที่เปิดให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก หากประชาชนไม่
ไขว่คว้าหาโอกาสกันเอง สร้างโอกาสกันเอง และต่อสู้ทุกแนวทาง
ที่ชอบธรรมในการร่วมกันก้าวไปสู่เป้าหมาย

ท่านไม่ต้องรอให้แกนนำเราเป็นเช แล้วนำเราครับ
เราทุกคน เป็น เช กูเอง.... ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยวิธีการที่ชอบธรรม
ขอต้อนรับ นักปฏิวัติ เช กูเอง ทั่วประเทศไทยครับ

ด้วยรักและศรัทธาหัวใจสีแดงทุกดวง
เพียงดิน






โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721517 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 00:44:01 _ ปิดข้อความ แก้ไข


คุณRED CLOWN ครับ นั่นคือสาเหตุที่เราต้องเริ่มการปฎิวัติโดยการเริ่มเข้าไปจัดตั้งมวลชนผู้หลับไหลครับ...

พวกเขาที่คุณกล่าวถึง คือ งานของคุณในฐานะ เช กูเอง ครับ
ทำเลยครับ จับหัวสุมกันสักแปดเก้าคน (อย่าเกินนี้นะ เดี๋ยวผิดกฎหมาย!;-)
แล้วก็สร้างกลุ่มคนที่ปฎิวัติในหัว โดยไม่ยอมให้ลัทธิอำมาตย์เอาเปรียบ
หรือกดขี่เขาเชิงโครงสร้างได้อีก...






โพสต์โดย : kissme44
ID # 1721525 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 00:56:20 _ ปิดข้อความ


เอาเวลาไปดูแลพ่อแม่บ้างนะ หรือว่าตายหมดแล้ว




โพสต์โดย : kissme44
ID # 1721526 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 00:56:34 _ ปิดข้อความ


เอาเวลาไปดูแลพ่อแม่บ้างนะ หรือว่าตายหมดแล้ว




โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721528 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 01:02:28 _ ปิดข้อความ แก้ไข


สวัสดีครับ คุณkissme44
ก็ดูแลเต็มที่แล้วครับ ไม่มีอะไรขาดเหลือครับ

หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณคงอยู่ดีกินดีเช่นกันนะครับ

เมื่อมีเวลาว่างบ้าง ก็ต้องวิ่งเข้ามาด้วยเจตนาเพื่อบ้านเมือง
ก็คงเหมือนคุณ kissme44 นั่นแหละครับ ผมเชื่อว่าคุณ
รักบ้านเมืองและกำลังทำในสิ่งที่คุณเชื่อ

คุณรักแผ่นดินไทยเหมือนผมไหมครับ?
หากคุณรัก เราก็ควรเริ่มมานั่งคุยกันฉันท์มิตรเสียทีนะครับ

เราทำยังไง จึงจะทำให้บ้านเมืองมันสงบ และลงเอยด้วยดี
โดยประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช่อำมาตย์และไม่ใช่ทักษิณหรือใครอื่น






โพสต์โดย : kissme44
ID # 1721536 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 01:16:34 _ ปิดข้อความ


มีความรู้มากๆ ก็ไปสอนคนด้อยโอกาสต่างจังหวัดบ้างนะครับ สร้างคนที่ดีดีให้สังคม ดีกว่าปลุกระดม ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ผมเชื่อของผมแบบนี้ ไม่เคยเชื่อในการทำอะไรที่ตอบสนองความเชื่อของตัวเอง แต่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นแบบนี้

บ้านเมืองเราอยู่กันแบบนี้มากี่ปี คนที่เก่งสร้างความรุ่งเรืองให้ตัวเองมีมากมาย ใช้ความสามารถของเค้า ฝ่าฟันความยากลำบาก เค้าไม่เคยโทษระบบที่เค้าเกิดและเติบโตมาเลยนะ

แน่ใจนะครับว่าสิ่งที่คุณเชื่อ ไม่ใช่เป็นการโยนปัญหาของตัวเองกลับเข้าสู่สังคม





โพสต์โดย : นายข้าวผัด
ID # 1721541 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 01:23:49 _ ปิดข้อความ


คนอย่างไอ้ kissme44 ดีแต่โพล์ มึงก็หน้าตาเมีย เหมือนพวก

ทหาร ทำมาปากดี คริๆๆๆๆๆ มึง จบอะไรมาเหรอ ถึงไปว่าคนต่างจังหวัด

ไอ้น่าตัวเมีย.....ถุย......




โพสต์โดย : kissme44
ID # 1721544 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 01:28:34 _ ปิดข้อความ


ถามง่ายๆ แล้วกัน นึกซะว่ากูเป็นพ่อมึงแล้วกัน

"ไอ้ลูกเชี่ยย ไปทำเชี่ยอะไรมาอีก เค้าถึงได้ยิงเอา"

มึงก็ตอบมาดิว่า

"ไม่มากหรอกพ่อ เผารถไป 30 คัน บางคันก็ขับไปชนเค้า ปิดถนนชาวบ้านเดือดร้อนเป็นล้าน ล้มการประชุมระดับทวีป ซึ่งเป็นผู้นำของโลกรวมกันค่อนโลก พยายามฆ่านายก แล้วก็บูชาคนเชี่ยๆ แค่นี้เองครับพ่อ"


พ่อมึงคงภูมิใจนะ ไอ้ข้าวผัดบูด


พ่อก็สอนมึงแค่นี้นะวันนี้ วันหลังจะมาสอนใหม่ เผื่อจะได้ฉลาดขึ้น






โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721550 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 01:34:26 _ ปิดข้อความ แก้ไข


คุณKissme44 ครับ หากผมพูดเรื่องตัวเอง จะหาว่าคุย
ผมน่ะเริ่มจากคนยากคนจน จนแบบไม่มีข้าวกลางวันกิน จนแบบต้อง
ใส่เครื่องแบบนักเรียนที่คนจึนในตลาดบริจาคให้จนถึงมัธยมครับ
แต่ตอนนี้เอาเป็นว่า ชีวิตผมสุขสบายอยู่เมืองนอกครับ พ่อแม่ไม่เดือดร้อนขัดสน
เงินเดือนผมมากกว่าข้าราชการไทยรุ่นเดียวกันนับสิบเท่า
การศึกษาก็ไม่ต้องดิ้นรนอะไรต่ออีกแล้ว เมื่อผมสำเร็จแล้ว ผมก็เลยต้อง
กลับมามองบ้านเกิดเมืองนอน ด้วยความเข้าใจปัญหาที่ชัดเจน เพราะผม
ไม่อยู่ภายใต้อำนาจและบุญคุณของใคร ผมจึงเห็นว่า ระบอบอำมาตย์
ได้ปล้นโอกาสการอยู่ดีกินดีไปจากประชาชน เขาเรียกว่า เป็นความรุนแรง
เชิงโครงสร้าง ซึ่งดูแล้วมันยิ่งชัด ผมจึงไม่มองทักษิณเป็นตัวละครสำคัญ
ไม่คิดว่าเขาทำร้ายบ้านเมือง เพราะตอนนี้เราก็เห็นแล้วว่า เขาเอาตัวแทบ
ไม่รอด เพราะเครือข่ายอำนาจที่เกาะกินเมืองไทยมานาน มันน่ากลัวมาก
และประเทศไทยเราก็เลยอยู่ในวงเวียนปัญหาและความตกต่ำสูญเสียมานาน

เพราะห่วงอย่างนี้แหละครับ จึงอยากให้บ้านเมืองเราไร้วงจรอุบาทว์
หากคุณเปิดใจจะเรียนรู้ ว่าพวกอำมาตย์เกาะกินเมืองไทยแล้วย่ำยีให้
ชาวบ้านติดรากหญ้า ยากจน ไร้ความคิดสร้างสรรค์ ไร้โอกาส ด้อยการศึกษา
หรือได้การศึกษาที่แค่สร้างคนไปรับใช้ระบอบ ฯลฯ เหล่านี้ ผมยินดีทีจะ
ช่วย แต่ขอให้คุณมองผมเป็นกัลยาณมิตรก่อน เข้าใจเจตนาผมเสียก่อน

ผมไม่นิยมความรุนแรง และไม่อยากให้เกิดความเดือดร้อนกับใคร
หากจะทำอย่างนั้น ก็ต้องเน้นให้ตรงเป้า เด็ดให้ตรงรากแก้ว แต่ยังไง
ผมก็ไม่คิดว่าเหมาะสมสำหรับสังคมไทย แต่มาคิดอีกที หากประชาชน
ไม่ทำอะไรเสียเลย ก็จะถูกครอบงำไปตลอดลูกหลาน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำ
คือการติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน แต่ไม่ใช่ให้ไปรับใช้ระบอบที่
ครอบงำวงจรอุบาทว์เหมือนสนธิทำนะครับ แต่เป็นการให้ประชาชน
กล้าที่จะเรียนรู้และประกาศสิทธิตัวเอง กล้าที่จะเรียกร้องให้รัฐตอบสนอง
ความต้องการโอกาสและการอยู่ดีกินดีของพวกเขา

คุณkissme44 ครับ เราอยู่บนเรือลำเดียวกัน แต่อำมาตย์พยายามเขี่ย
ชาวบ้านให้ไปเกาะอยู่ริมเรือ ทั้งถีบทั้งเอาไม้พายตี เพื่อกันที่ไว้ให้ตนเอง
นอนสบาย ชาวบ้านจึงเกาะเรือรุ่มร่าม และการตีกันถีบยันมันทำให้เรือ
ของเราถูกเรือลำอื่นแซงไปแล้ว และดีไม่ดีเราจะล่มจมตายกันทั้งเรือ
ดังนั้น ประชาชนต้องร่วมมือกัน โจมตีคนบนเรือให้พร้อมกัน เพื่อขึ้นไป
จัดระเบียบให้ทุกคนบนเรือได้มีที่นั่งและได้ใช้ใบพายช่วยกันจ้ำให้ไปสู่
เป้าหมายที่ปลายฝั่ง

ในเจตนาของผมไม่เคยต้องการให้ใครที่เป็นคนบนเรือเดือดร้อน
ยกเว้นอ้ายคนจำนวนน้อยที่เกาะกุมขุมอำนาจเพื่อหมู่ตน แล้วกันคนส่วนใหญ่
ไม่ให้ได้สุขสบาย ไม่ให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีีเท่าตน

อย่างนี้ พอจะคุยกันในฐานะมิตรกันได้ไหมครับ?




โพสต์โดย : นายข้าวผัด
ID # 1721566 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 01:53:24 _ ปิดข้อความ


คนแบบนี้ อธิบายไป ไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่า ......

เพราะระบบสมองสั่งงาน ตามที่คนอื่นเค้าใส่ไปให้.....

คนบางคนชอบเป็นขึ้ค่าอำมาตย์ไปจนตัวตาย.....

ดีใจแทนอำมาตย์จัง ที่ยังมีคนแบบนี้อยู่ในยุคนี้อยู่......

ขอให้คุณkissme44 รับใช้อำมาตย์ต่อไปนะคะ.....

คนที่เป็นแบบนี้ได้ คือ คนที่ไม่รู้จักใช้สมอง หรือ ข้อมูล ของตัวเองคิด

สมองจะคิดแต่สิ่งที่อำมาตย์ใส่ให้ อย่างนี้ เค้าเรียกว่าคน หรือ อะไรค่ะ

คิดว่ากูเป็นแม่มึงละคะ (ขอโทษนะคะ ใช้คำไม่สุภาพ คริๆๆๆๆ)





โพสต์โดย : T.xox
ID # 1721568 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 01:55:08 _ ปิดข้อความ



kissme44 สันดานชั่ว ๆ แบบนี้

กระทู้ที่เขาตั้งไว้ ถ้าไม่เห็นด้วย ก็

แสดงความเห็นมาสิ ทำไม ? ต้อง

ไปหาเรื่องไปด่่าพ่อแม่เขา แสดงว่า

พ่อแม่ตัวเองตายหมดแล้วสิ จึงไม่มี

ใครสั่งสอน ถึงได้แสดงความถ่อย ๆ

แบบนี้


เห็นเจ้าของกระทู้ ไม่เคยตอบโต้ใคร

ด้วยวิธีที่ไม่สุภาพใช่ไหม ? หละ จึง

ทำกร่างนัก


ตั้งกระทู้มาโต้กับ T.xox ดีกว่านะ

T.xox ชอบมาก ๆ จะให้หยาบจะ

ให้ละเอียดขนาดไหน ? ก็ได้ จะ

สงเคราะห์ให้นะ kissme44






โพสต์โดย : Prem1991
ID # 1721604 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 03:27:02 _ ปิดข้อความ


วาทะอันคมคายของ เช กูวารา

"จงทำตัวให้เป็นคนแข็งแกร่ง แต่อย่าละทิ้งความอ่อนโยน"

(ประมาณนี้....)




โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721607 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 03:35:58 _ ปิดข้อความ แก้ไข


สวัสดีครับ คุณPrem1991
ประมาณนั้นเลยครับ
แต่เวลาต้องเฉียบขาด เราต้องเฉียบขาด
โดยเฉพาะเมื่อเราเล่นกันด้วยความจริง หลักการ และเป้าหมายที่เป็นอุดมการณ์






โพสต์โดย : บินไปเรื่อยเรื่อย
ID # 1721609 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 03:42:14 _ ปิดข้อความ


การปฏิวัติเป็นการร่วมกันชุบมือเปิบโดยอาศัยอาวุธ
เพื่อประโยชน์ของตนกับพรรคพวกเท่านั้นมันไม่ยั่งยืน
เพราะผูกพันน้ำใจคนไม่ได้ มันเหมือนกับกินแอปเปิลสุกงอมนะคะ




โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721614 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 03:53:12 _ ปิดข้อความ แก้ไข




ครับ คุณบินไปเรื่อยเรื่อย การปฎิวัติที่ผ่านมา ไม่ใช่การปฎิวัติหรอกครับ
เป็นรัฐประหารและหลายครั้งก็แย่งอำนาจกันเอง...

ของจริงต้องปฎิวัติประชาชนครับ





โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721616 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 03:54:55 _ ปิดข้อความ แก้ไข




แก้ไขรูปภาพครับ




โพสต์โดย : Prem1991
ID # 1721629 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 05:15:22 _ ปิดข้อความ


สวัสดีท่านเพียงดิน

คืองี้นะ ในบรรดาเพื่อน ๆ ที่ร่วมอุดมการณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชนที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
แต่ไม่ให้มีอำมาตย์ทำตัวยิ่งใหญ่เป็น "คุณแอบ" หรือ "คุณแอบอ้าง" อยู่ข้างหลัง

เราเองเป็นคนที่ไร้สาระที่สุด จนไม่แน่ใจว่าการเข้ามาตอบกระทู้ของท่านเพียงดิน ที่ดูจะเอาจริงเอาจัง
จะควรหรือไม่ประการใด เพราะเราไม่ค่อยเอาจริงเอาจังเหมือนเพื่อน ๆ อีกหลายคน
บางครั้งเราไปโพสต์ในกระทู้อื่น ก็เอารูปนางแบบไปวาง (แต่รับรองว่าไม่โป๊) เพราะเราเห็นบรรยากาศเครียดแล้วก็เล่น ๆ ไปเสีย

ท่านเพียงดินที่นับถือ เวลานี้พวกเราที่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า

1. การต่อสู้เพิ่งเริ่ม และปฐมบทเพิ่งผ่านพ้นไป

2. เราไม่อาจห้ามความใจด่วนของมวลชนได้ แม้กระทู้ในประชาไทและที่ต่าง ๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นกระทู้ที่เร่งเร้าให้แกนนำ นำมวลชนไปก่อการโดยเร็ว ไม่นิยมการชุมนุมยืดเยื้อแบบฟังทอล์คโชว์ไปวัน ๆ

3. เราถือว่า ณ บัดนี้ มวลชนได้บทเรียนจากความใจร้อน ใจด่วน ใจเร็ว ในแบบฮาร์ดคอร์ไปแล้ว อย่างคุ้มค่า หลายคนบอกว่า รู้อย่างนี้อย่าเพิ่งก่อความรุนแรง สู้ชุมนุมต่อไปเรื่อย ๆ ดีกว่า แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะมันต้องเป็นไปของมันอย่างนี้ เหมือนกันแบบนี้ทั่วโลก และเหตุการณ์แบบนี้ก็ทำให้ผู้นำการต่อสู้ต้องถูกจับกุมคุมขัง ดำเนินคดี ดังจะกล่าวถึงต่อไป

4. จากการศึกษาเปรียบเทียบการต่อสู้ของประเทศต่าง ๆ ในโลก พบข้อสังเกตบางประการที่น่าสนใจ คือ
4.1 การต่อสู้ด้วยมือเปล่าในเบื้องแรก มักถูกปราบปราม แกนนำถูกจับกุม
4.2 มีการปรับแผนการต่อสู้ หรือยกระดับการต่อสู้ เช่น เปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ หรือยกระดับเป็นการต่อสู้ด้วยกองกำลังติดอาวุธ
4.3 มีต่างชาติให้ความช่วยเหลือ
4.4 มีการเข้าร่วมของมวลชนมากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลง

5. เราจึงไม่คิดว่าการต่อสู้ของมวลชนเพื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตยแบบอารยะ จะใช้เวลาอันสั้น แต่ยังต้องเดินทางอีกหลายปี

6. เราพบว่า

- การปฏิวัติอเมริกา มีการสู้รบกันอย่างหนักระหว่างฝ่ายประชาชนปฏิวัติกับอังกฤษ ในที่สุดก็มีประเทศฝรั่งเศสแอบส่งอาวุธช่วยเหลือฝ่ายประชาชน จึงมีเขี้ยวเล็บพอในการต่อสู้ และปฏิวัติสำเร็จ

- การปฏิวัติฝรั่งเศส ประชาชนเกิดความโกรธแค้นจากการปกครองของพระเจ้าหลุยส์ อารมณ์ปฏิวัติเริ่มแพร่กระจาย ไปทั่วปารีส มีการจัดตั้งกองกำลังแห่งชาติ (National Guards) ในปารีส เป็นกองกำลังติดอาวุธของประชาชน หลังจากนั้นก็มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธตามแบบปารีส ไปจนทั่วประเทศฝรั่งเศส

- เมษายน ค.ศ. 1917 เลนินและผู้นำคนสำคัญของพรรคบอลเชวิคที่ลี้ภัยอยู่นอกประเทศเนื่องจากถูกทหารของพระเจ้าซาร์ปราบ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนีให้เดินทางกลับเข้ารัสเซียโดยใช้เส้นทางรถไฟ
ทันทีที่ถึงรัสเซีย เลนินและสหายได้เคลื่อนไหวมวลชนและปลุกระดมให้ประชาชนเลื่อมใสอุดมการณ์ของพรรคบอลเชวิค
กระทั่งในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1917 พรรคบอลเชวิคซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสภาโซเวียตก็ยึดอำนาจการปกครองได้สำเร็จ

ความสำเร็จในการปฏิวัติของเลนิน ขึ้นกับปัจจัยหลักอย่างหนึ่งคือแนวคิดในการปฏิวัติที่เลนินถือว่าชนชั้นกรรมกรไม่อาจทำการปฏิวัติได้เอง จึงตั้งพรรคบอลเชวิคขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นกองหน้า (vanguard) ของการปฏิวัติ ที่น่าสังเกตอยู่ประการหนึ่งคือเลนินไม่เห็นด้วยกับลัทธิก่อการร้ายโดยบุคคลในลักษณะปัจเจก (individual terrorism) เนื่องจากลัทธินี้ทำให้คนส่วนใหญ่นิ่งอยู่เฉย ๆ รอคอยให้คนส่วนน้อยเคลื่อนไหวต่อสู้ให้พวกเขา ดังนั้นเลนินจึงต้องปลุกระดมมวลชนให้ร่วมกันต่อสู้ปฏิวัติ

- การปฏิวัติจีน พรรคคอมมิวนิสต์พ่ายแพ้การรบครั้งแล้วครั้งเล่า จนเหมา เจ๋อ ตุง เสนอยุทธศาสตร์ใหม่ เรียก "ยุทธศาสตร์ฐานที่มั่น" โดยการสร้างฐานที่มั่นในชนบท ป่าเขา ที่ห่างไกลอำนาจรัฐ เป็นฐานในการยกกำลังเข้าโจมตีกำลังของรัฐบาล
จากการที่ต้องพ่ายแพ้อย่างยับเยินในการสู้รบที่มณฑลเกียงสี พรรคคอมมิวนิสต์จึงได้ ยอมรับแนวความคิดของเหมาฯ เหมาฯ ต้องรวบรวมกำลังทหารล่าถอยจากมณฑลเกียงสี ไปยังเมือง เยนอาน มณฑลเสียนซี ซึ่งมีระยะทางไกลกว่าหนึ่งหมื่นกิโลเมตร อันเป็นการสร้างวีรกรรม ”การถอยทัพครั้งใหญ่” หรือ “การเดินวิบาก (Long March)” เป็นยุทธศาสตร์การถอยเพื่อรุกที่มีความสำคัญมาก
ยุทธศาสตร์ฐานที่มั่นของเหมาฯเริ่มสัมฤทธิ์ผล ทำให้รบชนะกองกำลังของญี่ปุ่นที่เข้ามารุกรานได้หลายครั้ง จนมีคนเข้าร่วมมากขึ้น ในที่สุดก็สามารถเอาชนะรัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋งได้อย่างสมบูรณ์ในเดือน เมษายน 1949

- การปฏิวัติคิวบา ในปี 1953 ฟิเดล คาสโตร นักกฎหมายชาวคิวบาได้นำกำลังติดอาวุธกว่า 100 คนเข้าโจมตีค่ายทหารมอนกาดา(Moncada) ที่เมืองซานติอาโก เด กูบา แต่ต้องพ่ายแพ้แก่ฝ่ายทหาร ฟิเดล คาสโตรและน้องชายชื่อ ราอูล คาสโตร ถูกจับและถูกพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 15 ปี แต่ในเดือนพฤษภาคม 1955 กลุ่มของคาสโตรได้รับการอภัยโทษ จึงได้เดินทางไปยังอเมริกาและเม็กซิโกเพื่อเตรียมการปฏิวัติอีกครั้งหนึ่ง

ในปี 1956 ฟิเดล คาสโตร พร้อมด้วย Ernesto Che Guevara นักปฏิวัติชาวอาร์เจนตินา จึงได้นำกองกำลังติดอาวุธ 82 คนจากเม็กซิโกมาขึ้นฝั่งที่จังหวัดโอเรียนเตในคิวบา กองกำลังดังกล่าวได้ปะทะกับทหารของรัฐบาลและรอดชีวิตเพียง 12 คน จึงต้องหลบหนีไปตั้งมั่นอยู่บริเวณเทือกเขามาเอสตรา เพื่อใช้เป็นฐานทำการปฏิวัติต่อไป

ระหว่างเดือนธันวาคม 1956 ถึงเดือนธันวาคม 1958 มีผู้เข้าร่วมสมทบในกองกำลังปฏิวัติเพียงประมาณ 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกรรมกรโรงงานอุตสาหกรรม ผู้ใช้แรงงานในไร่นา และชาวนายากจน บุคคลเหล่านี้ไม่ได้เลื่อมใสหรือเข้าใจอุดมการณ์สังคมนิยมแต่อย่างใด แต่ต้องการเพียงจะต่อสู้กับพวกนายทุนที่กดขี่เอารัดเอาเปรียบและยึดที่ดินทำกิน

เมษายน 1957 ทหารเรือที่เมืองเซียนฟูเอโกสได้ก่อการแข็งข้อต่อรัฐบาล ส่วนกรรมกรก็มีการนัดหยูดงานทั่วไปอีก ในเวลาเดียวกนนี้ ขบวนการปฏิวัติของฟิเดล คาสโตร ก็สามารถเปิดแนวรบที่ 2 ที่เทือกเขากริสตาล

กระทั่ง มกราคม 1959 กองกำลังฝ่ายปฏิวัติก็ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด โดยเข้ายึดกรุงฮาวานาได้ด้วยกำลังที่มีไม่ถึง 2,000 คน ประธานาธิบดีบาติสต้าหลบหนีไปสาธารณรัฐโดมินิกัน

- การปฏิวัติอิหร่าน มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเสียผลประโยชน์ไปยุยงส่งเสริมพระเจ้าชาห์ให้เข้าใจอิหม่ามโคไมนีผิด ชาร์จึงเริ่มมีพฤติกรรมขัดแย้งกับผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณที่คนอิหร่านจำนวนไม่ น้อยให้ความศรัทธาอย่าง อะญาตุลลอฮ์ โคไมนี
การทะเลาะเบาะแว้งทำให้คนอิหร่านแบ่งเป็น 2 พวก คือ
1.พวกนิยมกษัตริย์
2.พวกนิยม อิหม่ามโคไมนี

กษัตริย์ ใช้ กลไกของรัฐทุกอย่าง ทั้งศาล รัฐบาล ทหาร ในการเล่นงานโคไมนี โคไมนีจึงต้องไปปักหลักอยู่กับมุสลิมชิอะห์ที่เมืองนาจาฟ ทางตอนใต้ของอิรัก
ในเวลานั้น ชาวอิหร่านจำนวนครึ่งหนึ่งของประเทศ เคารพรักอิหม่ามโคไมนี ทำให้มีการประท้วงครั้งแล้วครั้งเล่า แทบไม่หยุด ส่วนโคไมนีก็พยายามสื่อสารกับมวลชนที่ศรัทธาเขา โดยการพูดบันทึกเทปให้ผู้ศรัทธาเอาไปจ่ายแจกตามบ้านเรือนผู้คนในอิหร่าน เพื่อไม่ให้กระแสของตนหายไป
เวลาผ่าน ไปหลายปี ไม่มีทีท่าว่าอิหม่ามโคไมนีจะหยุด แม้ตัวไม่อยู่ในประเทศ แต่อิทธิพลคำปราศรัยจากเทปและจดหมาย ก็ยิ่งทำให้ผู้คนถวิลหาอิหม่ามโคไมนี
ปี 1978 พระเจ้าชาห์ขอให้ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำคนใหม่ของอิรัก ช่วยไล่อิหม่ามโคไมนีออกจากอิรัก โคไมนีจึงอพยพออกจากอิรักไปอยู่ชานกรุงปารีส ฝรั่งเศส

ในปี 1979 ประชาชนคนที่ฟังเทปของอิหม่ามโคไม่นีลุกฮือกันทั้งประเทศ พระเจ้าชาห์ และราชวงศ์ทุกพระองค์จึงต้องทรงเดินทางหนีออกจากอิหร่าน ระบอบกษัตริย์ที่เคยอยู่ยงคงกระพันมานานถึง 2,538 ปี ก็มีอันล้มคลืน

จะเห็นว่าโคไมนี ที่ต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานถึง 15 ปี จึงได้กลับอิหร่าน และได้เป็นประมุขของประเทศ

- การเปลี่ยนแปลงในเนปาล ราชวงศ์ของเนปาล เป็นสถาบันกษัตริย์สุดท้ายของชาวฮินดู ที่ถูกล้มเลิก กษัตริย์คเยนทรา เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของเนปาล พระองค์เข้าสู่อำนาจการเมืองโดยได้ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อปี 2005 ซึ่งนำไปสู่วิกฤติการณ์ความขัดแย้งแตกแยกครั้งใหญ่ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของพลเรือนชาวเนปาลจำนวนมาก โดยกองทัพกล่าวว่าประชาชน 2,000 คนถูกฆ่าตาย

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ความนิยมในตัวกษัตริย์คเยนทรา และต่อสถาบันกษัตริย์ ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ประชาชนพากันลุกฮือประท้วงจนนำไปสู่การยึดพระราชอำนาจในหลายๆ ด้านของพระองค์ ทางด้านกลุ่มกบฏเหมาอิสต์ที่นำโดย นายประจันดา อดีตครูสอนหนังสือได้นำการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนเนปาลให้เป็นประเทศคอมมิวนิสต์มานาน 10 ปี ได้ตัดสินใจยกเลิกการสู้รบแบบกองโจร แล้วเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยหนทางทางการเมืองแทน ปรากฏว่าได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนเมษายน จนได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาและในที่สุดก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2008

และมีการสถาปนาประเทศจากราชอาณาจักรเนปาลเป็น “สาธารณรัฐเนปาล” โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข เมื่อรัฐสภาลงมติยกเลิกการปกครองระบบกษัตริย์ ในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 28 พฤษภาคม 2008 ผลการลงมติดังกล่าวส่งผลให้กษัตริย์คยาเนนทรา แห่งราชวงศ์ชาห์ทรงสิ้นสุดอำนาจการปกครองและกลายเป็นสามัญชน พร้อมต้องสละราชบัลลังก์เสด็จ ออกจากพระราชวังภายใน 2 สัปดาห์ และเป็นการสิ้นสุดการปกครองในระบบกษัตริย์ที่ดำเนินยาวนานมาถึง 240 ปี ซึ่งถือได้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นโดยผ่านการยินยอมพร้อมใจของประชาชนชาวเนปาลเองเป็นส่วนใหญ่ผ่านการเลือกตั้ง นอกจากนี้รัฐสภาได้ลงมติให้ นายราม บารัน ยาดัฟ เป็นประธานาธิบดีคนแรก และนายพุชปา ฮามาล ดาฮาล หรือนายประจันดาผู้นำอดีตกลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมาของเนปาลเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสาธารณรัฐเนปาล

- การต่อสู้ของ เนลสัน แมนเดลา เขาเห็นว่าชาวผิวดำแอฟริกาถูกกดขี่ และเอารัดเอาเปรียบจากคนผิวขาว เขาพยายามต่อสู้เรียกร้องเพื่อสิทธิและเสรีภาพของชาวผิวดำโดยสันติ เช่น การชุมนุมประท้วง และเดินขบวนอย่างสันติ รวมไปถึงการบอยคอต และการเรียกร้องต่าง ๆ

แต่กลับถูกปราบปรามอย่างหนัก กระทั่งมีการสังหารหมู่ผู้เดินขบวนที่เมือง Sharpeville ในปี 1960 แมนเดลาจึงได้เข้าร่วมในการจัดตั้งหน่วยพลร่มแห่ง ANC เพื่อก่อวินาศกรรม ตอบโต้การกระทำของรัฐบาลผิวขาว อันเป็นการยกระดับการต่อสู้จากการต่อสู้แบบสันติ เป็นการต่อสู้ด้วยกองกำลังติดอาวุธ

ในปี 1962 แมนเดลาถูกจับ ในข้อหา พยายามหลบหนีออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย เขาถูกตัดสินว่า มีความผิดจริง และถูกพิพากษาจำคุก ที่เกาะรอบเบนเป็นเวลา 5 ปี ในปี 1963 เขาถูกนำตัวขึ้นศาลอีกครั้ง พร้อมกับเพื่อนร่วมพรรคในข้อหาสั่งสมอาวุธไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย และถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในปี 1989

ต่อมา F.W. de Klerk ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ เขาได้สั่งฟื้นคดีการเหยียดสีผิวขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งยกเลิกคำสั่งห้ามพรรค ANC ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง และในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1990 de Klerk ได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวเนลสัน แมนเดลา หลังจากที่ต้องโทษการเมืองมานานถึง 27 ปี
หลังจากนั้นแมนเดลา ในฐานะผู้แทนจากพรรค ANC ได้เข้าร่วมการเจรจาต่อรองกับรัฐบาล เพื่อยุติปัญหาการแบ่งแยกสีผิว และจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างคนขาวและคนผิวสีขึ้นมา ในปี 1993 แมนเดลาและ de Klerg ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกัน ในฐานะที่บุคคลทั้งสองได้พยายามระงับ และยุติปัญหาเรื่องการแบ่งแยกสีผิว และนำประเทศแอฟริกาใต้สู่วิถีแห่งประชาธิปไตยที่คนทุกสีผิวเท่าเทียมกัน

ในปีต่อมา มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 26 เมษายน 1994 ประชาชนชาวแอฟริกาใต้กว่า 22 ล้านคน พร้อมใจกันมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผิวผสม แมนเดลาได้รับคะแนนเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น พรรค ANC ได้เป็นพรรคผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรค de Klerk's national Party และพรรค Zulus' Inkatha Freedom เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แมนเดลาจึงได้เป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกแห่งแอฟริกาใต้ ใน 10 พฤษภาคม 1994

- และ ฯลฯ

สำหรับประเทศไทย ยังไม่เคยเห็นชัยชนะของประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ

- ปี 2475 ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงโดยชนชั้นสูง และทหาร ที่ไม่ชอบการมีอำนาจเบ็ดเสร็จของพระมหากษัตริย์
- ปี 2516 แม้ประชาชนชนะ ที่สามารถไล่เผด็จการได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะฝ่ายชนขั้นสูงไม่ชอบหน้าเผด็จการถนอม ประภาส ณรงค์ และจากนั้นประชาชนก็ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลเอง แต่ได้รัฐบาลสัญญา ธรรมศักดิ์ จากการพระราชทาน
- ปี 2519 ประชาชนถูกปราบปราม คล้ายปี 2552 แต่ครั้งนั้นมีหลังพิงคือไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ในป่า
- ปี 2535 ประชาชนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการต่อสู้กับเผด็จการมากกว่าปี 2552 แม้จะออกมาชุมนุมน้อยกว่า แต่มวลชนของฝ่ายตรงข้ามแทบไม่มี จึงมีการออกมาเบรคฝ่ายทหารให้หยุดการปราบปราม หาไม่สุจินดาคงยังไม่หยุดแค่นั้น
- ปี 2552 ประชาชนแตกแยกเป็นสองฝ่าย ต่างฝ่ายก็มีจำนวนมาก ฝ่ายเสื้อแดงต้องเพลี่ยงพล้ำในปฐมบทของการต่อสู้ เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นสูง กองทัพ สื่อมวลชน นักวิชาการ กลุ่มทุน ฯลฯ

จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การต่อสู้อีกหลายประการ ดังแบบอย่างการต่อสู้ในประเทศต่าง ๆ ที่เราได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้ดูข้างต้น

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายประชาชนประชาธิปไตย รวมทั้งต่อฝ่ายบ้านเมืองที่หากต้องการไม่ให้ประเทศเป็นมิคสัญญี ก็ควรปรับเปลี่ยนนโยบาย หันมาพิจารณาเรื่องของการนิรโทษกรรม การแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดและอยุติธรรมอันเกิดจากการใช้อำนาจเผด็จการ ให้คืนความยุติธรรมต่อฝ่ายประชาชนประชาธิปไตย ก็จะสามารถรอดพ้นจากสถานการณ์ปฏิวัติได้นะ....นี่ก็ว่ากันตรง ๆ นะ

ด้วยความหวังดีต่อทุกฝ่าย
Prem1991




โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721711 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 08:09:07 _ ปิดข้อความ แก้ไข


นี่ไง คนดีศรีประชาไท ที่แอบซ่อนตัวอยู่นาน

ประวัติศาสตร์สอนเราไว้อย่างนั้นจริง ๆ ครับ แต่เราต้องไม่ลืมว่า ประวัติ
ศาสตร์ก็ได้สอนเราแล้วเหมือนกันว่า เวลานี้มัน 2552 ประชาชนไทย
และประเทศไทยมีอะไรที่แตกต่างจากทุกเรื่องที่ผ่านมาพอสมควร
การหวังผล อาจจะต้องเอาสิ่งที่คุณกรุณายกอธิบายประกอบอย่างชัดเจนยิ่ง
เพื่อไม่ให้เราใจเร็วด่วนได้ ต้องขอบคุณอย่างยิ่งครับ

อันที่จริง หากเป็นประเทศอารยะ เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น และประเทศยุโรป
บางประเทศ หรือแม้ในไทยเอง ในอดีตที่ผ่านม การที่มีประชาชนออกมา
มากมายหลายแสน มันก็นำการเปลี่ยนแปลงได้ ผมเชื่อว่าเมืองไทย
คนไทยพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่พวกเขาไม่มีประสบการณ์
และแกนนำเราเองก็ไม่มีประสบการณ์ กอปรกับการคาดเดาพฤติกรรมของ
ฝ่ายอำมาตย์มันผิดไป อันที่จริงหากจะกล่าวย้อนหลังถึงความผิดพลาด
ของแกนนำเรา มันก็ทำได้หลายอย่าง ที่ผ่านมาผมไม่นำเสนอ เพราะมัน
เหมือนคนซ้ำเติมคนทำงาน และพวกเขาก็จะสรุปได้เองอยู่แล้ว

แต่ที่ผมได้นำเสนอตลอดก็คือ อหิงสาคือวิธีที่ดีที่สุด ผมย้ำตั้งแต่หลัง
รัฐประหารใหม่ ๆ ด้วยซ้ำ เพราะเชื่อว่า เมืองไทยตื่นรู้และก้าวหน้าเกินกว่า
ที่ทหารจะรัฐประหารได้อีก แต่นั่นเป็นความคิดที่ด้อยประสบการณ์และ
มองโลกในแง่ดีเกินไปของผม

แต่อย่างไรก็ตาม อหิงสาในแบบของผมก็เหมือนกับที่แกนนำทำ คือ
แดงทั่วแผ่นดิน และผมว่าแกนนำเราระดมพลได้เร็วในเวลาอันนั้น
แต่น่าเสียดายที่แกนนำสู้แบบนักธุรกิจการเมืองมากกว่านักปฎิวัติ
โดยเฉพาะในระยะต้น ๆ เราพูดกันเรื่องการสร้างมวลชนมานาน
แต่แกนนำไม่ได้วางรากฐานอะไรที่มันลึกซึ้ง สส. ไทยรักไทยเก่า
หดหัว ยอมรับสิ่งไม่ชอบธรรมที่เขาระดมใส่ จนมองดูเหมือนโง่เง่า
และต้องยอมรับว่าพวกนี้ หดหัวเอาตัวรอดแค่นั้น ไม่ได้มองเห็นความ
จำเป็นในการปลูกสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง การจัดตั้งจึงไม่
ค่อยเข้มแข็งพอ อันที่จริงเชเอง ก็ถือว่า การจัดตั้งสำคัญอย่างยิ่ง
เขาจึงลงไป่ช่วยเทรนแกนนำระดับล่างด้วยตัวเองในแทบทุก
ประเทศที่เขาเข้าไปช่วย จนเขาโด่งดังในโลกในช่วงนั้น แต่การตาย
ของเขาก็เพราะเขาหว้งพึ่งชาวบ้านที่ยากจน และอยู่ใตัอิทธิพลรัฐบาล
อย่างใกล้ชิดยาวนาน แถมไร้สมรรถภาพในการพัฒนา (คงเป็นด้วย
ความไร้ความสามารถในการวิเคราะห์หรืออ่านออกเขียนได้ด้วยเช่นกัน)
เขาหวังผลสูงกว่าที่ควรจะเป็น ในที่สุดเขาก็ถูกล้อมกรอบและพ่ายแพ้
(แต่ก็ต้องถือว่า การเข้าไปแทรกแซงของ CIA มีส่วนสำคัญยิ่งต่อ
ความสำเร็จในการไล่ล่าเขาและพวก) แต่สรุปว่า การจัดตั้งควรทำ
นานแล้ว และทำอย่างเป็นระบบกว่าที่ผ่านมาในระยะสองปีแรกหลังการ
รัฐประหาร

แต่ก็ต้องยอมรับว่า แกนนำระดมพลได้เร็วและมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
และชาวบ้านเองก็พัฒนารวมตัวกันได้เร็วอย่างที่ไม่น่าจะมีประเทศไหน
ทำได้มาก่อน เพราะนี่มันยุคสมัยแห่งข้อมูลข่าวสารนั่นเอง ระดับการศึกษา
ของประชาชนมันสูงกว่ายุคไหน ๆ ในประวัติศาสตร์ และคนไทยเอง
ก็ไม่ชอบอะไรที่มันไม่ยุติธรรมจนเกินงาม เราจึงเกิดแดงทั่วแผ่นดินในระดับ
ที่น่าจะมากพอสำหรับการเคลื่อนไหว

เสียดายที่เราไม่เน้นให้กรุงเทพอัมพาตแบบสันติวิธี และสันติวิธีนี่แหละ
ที่เราใช้ไม่ถูกจังหวะ ผมไม่ใช่มาว่ากันตอนหลังนี้ ได้ว่าตลอดว่า ต้อง
ให้มีผลรุนแรงรับรู้ได้ ผมไม่แน่ใจว่าตัวเลขที่ได้มันน้อยกว่าที่คาดหรือไม่
หรือทุนอาจจะไม่พอหรือเปล่า เพราะเราเอาคนเข้ากรุงเทพได้นับอย่างน้อย
สามแสน ซึ่งถือว่าไม่น้อยทีเดียว แต่แกนนำเราคงคำนวณวันเวลาผิดไป
ดันไปเลือกใกล้สงกรานต์ ซึ่งต้องถือว่าผิดพลาดอย่างยิ่ง หรืออาจจะกะ
ว่าเวลาสามวันจะระดมคนได้ แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์น่ะมีทั้งเนวินและเทพเทือก
จะว่าจอมมารสองรุ่นสุมหัวกันอยู่ก็ว่าได้ แถมยังมีมารผมขาวและเหล่าจอม
มารที่เก่งขนาดวางแผนเป็นขั้น ๆ แบบที่ผมเองก็ไม่เคยคิดออกล่วงหน้า จน
มาถึงบางอ้อระยะหลังการรัฐประหารหลายเดือนเหมือนกัน หากปัญหาการ
ระดมพลเราติดขัดไม่ได้ดังแผน หรือเป็นเพราะการเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นการ
เรียนรู้ แต่เราได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากแล้วนะครับ ผมอดชื่นชมไม่ได้

แต่ปัญหามันอาจจะอยู่ที่การใช้อหิงสาวิธีแบบไม่มีประสบการณ์นั่นเอง
อหิงสาไมใช่การเดินขบวนแล้วไปพูดปาว ๆ ว่าร้ายคนด้วยเหตุผลแต่ทำให้
คนที่ถูกว่าเสียหายหน้าชา ฯลฯ ยิ่งไปพูดนาน ๆ คนทีเป็นเป้าก็ทั้งแค้น
ทั้งกลัว ทั้งเตรียมการ ผมว่าพวกอำมาตย์ไหวหวั่นอย่างมาก แต่เราดันไม่
มีหมัดเด็ด ผมเทียบเป็นมวยให้ฟังหลายครั้ง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าแกนนำเราติด
ที่มวลชนหรือไม่ จึงไม่สามารถทำให้กรุงเทพเป็นอัมพาตได้อย่างที่
คาดหวังหวังไว้ จนเวลายืดเยื้อเลยต้องมีคนอึดอัดออกไปแสดงอาการ
แถมถูกใส่ร้ายป้ายสีจากฝ่ายตรงข้ามมือที่สามเสียอีก ความผิดพลาดอาจจะ
อยู่ที่การไม่ระดมพลให้มาอออยู่กรุงเทพแบบเต็มทุกอณูของพื้นที่หัวใจ
ของกรุงเทพ ภาพที่เห็นจีงไม่ใช่ภาพแดงทั่วแผ่นดินที่มีพลังมากพอ
การยึดศาลากลาง ทำให้ดูยิ่งใหญ่ แต่อำมาตย์ม้ันหน้าด้าน มันไม่สน

การกดดันด้วยมวลชน นอกจากจำนวนมหาศาลแล้ว ยังเป็นเรื่องของการเผด็จ
ศึกโดยเร็วเพื่อไม่ให้มวลชนเสียกระบวน แต่เราเล่นไปอยู่ในที่แจ้ง
ผิดเวลา และก็ออกไปผิดที่ ฯลฯ พูดไปมันก็ไร้ค่าในตอนนี้ แกนนำเรา
เขาคงเรียนรู้อยู่แล้ว การอยู่ยาวและพูดปราศรัยมากเกินไป เพราะต้องทำ
เพื่อตรึงมวลชน จึงเป็นช่องโหว่และจุดอ่อน ฝ่ายอำมาตย์จึงมีเวลาเตรียม
ตัวยและโต้กลับ เพราะรุ้ว่ายังไงก็ไม่มีหมัดเด็ดจากเรา พอประมาณกำลัง
พลฝ่ายเราที่ร่อยหรอเพราะทนรอไม่ได้ แถมสื่อและทุกฝ่ายก็ต้อนเราแบบ
ไม่ให้ตั้งตัว เราจึงต้องถูกล้อมกรอบดังกล่าว และนี่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำซาก
แน่ ๆ หากเราไม่ปรับยุทธวิธี ซึ่งแน่นอนว่า หากจะใช้สันติวิธี เราต้อง
ทำเหมือนทหารทำการปฎิวัติ คือ ยึดคน ยึดสถานที่ และยึดอำนาจไว้ให้
ได้โดยเร็ว เหมือนกระแสสินามิ ไม่ต้องเตือนนาน ไม่ทำอะไรแบบยืดยาด
ไร้เป้าหมายและขั้นตอนชัดเจนอีกต่อไป

แต่หากทำอย่างนั้นมันเสี่ยงเกินจะทำได้หรือพลังมวลชนไม่พอสำหรับ
สินามิแอทแท็ก โดยไม่เตือนล่วงหน้า เราก็ต้องค่อย ๆ ทำหลาย ๆ อย่าง
พร้อมกันทั้งใต้ดินและบนดิน รอวันที่เกิดโอกาสและต้องฉวยโอกาส
พร้อมกับสร้างโอกาสไปทุก ๆ วัน และพร้อมจะสร้างสินามิตลอดเวลา

ผมเชื่อว่าตอนนี้เราคงเป็นกองโจรทางปัญญาดีที่สุด กระจายคนออกไป
ปลูกประชาธิปไตยและหัวใจปฎิบัติสู้กับรัฐ นี่เหมือนคอมมิวนิสต์เลยนะครับ
หากเราใช้กองโจรติดอาวุธเราก็เรียกได้ว่าเป็นสงครามกลางเมือง ซึ่งผมว่า
ควรเลี่ยง เพราะไทยเราจะสูญเสียอย่างมหาศาลมากกว่าที่เสียไปแล้ว เพราะ
ประเทศไทยจะไม่ปลอดภัย จะกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนครับ

การปฎิว้ติของผม จึงเอายุทธศาสตร์ของเชมาเป็นหลัก แต่ใช้ยุทธวิธีปนกัน
ระหว่างของคานธี เชแบบประยุกต์ และเอายาดีแบบไทย ๆ มาช่วยด้วย

ที่สำคัญ คุณเปรมได้กรุณาแสดงให้เห็นว่ากระบวนการมันอาจยืดยาว
แต่ก็นั่นแหละ เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ตื่นรู้จไม่มาเป็นปัญหาสำหรับเรา
หากเราดึงมวลชนเสื้อเหลืองให้มาร่วมเราได้ นั่นแหละ ทางแห่งสันติวิธี
แบบสินามิสายฟ้าแลบ จึงจะเป้นไปได้ และจะไม่มีใครหยุดพลังประชาชนได้

เป้าหมายคนเสื้อแดงตอนนี้ ผมว่าอยู่ที่การสร้างมวลชนอย่างเร่งด่วนสู้กับสื่อ
ของรัฐ และทำหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ด้วยแผนระยะสั้น กลาง
และยาว ที่ทำอย่างประสาน และด้วยการกดดันฝายอำมาตย์ในทุกวิถีทาง

เราจำเป็นต้องมีการจัดตั้งแบบแบ่งหน้าที่ แบ่งกลุ่มย่อย และแบบองค์กร
ใหญ่พร้อมกันไปด้วย โดยที่เช กูเอง ควรเกิดขึ้นเป็นแสนเป็นล้าน แล้ว
ทำทุกอย่างที่เสริมยุทธศาสตร์ยุทธวิธี ผมยังเชื่อว่า การปฎิวัติของไทยโดย
ประชาชนเป็นไปได้ ในเวลาน้อยกว่าห้าปีแน่นอนครับ โดยไม่ให้เกิดสงคราม
กลางเมืองด้วย...
และหากจะรุนแรง ผมว่าต้องทำแบบไม่ปราณีนะครับ เอาประเภทเด็ดหัว
จัดการขุน แยกขุนแยกเรือ ฯลฯ หากแผนดี มีชัยเร็วขึ้นแน่นอน

การรอจังหวะและสู้แบบไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง จึงเป็นเรื่องที่เราต้องคิดและทำให้ได้

เหมือนการฆ่าสนธิแล้วเสื้อเหลืองอ่อนยวบ ซึ่งแน่นอนว่ามีผลมาก ๆ
(แม้ว่านัยที่ผมเห็น มันเป็นการเตือนเพื่อกะจะเก็บสนธิเป็นเครื่องมือกลาย
ๆ ด้วย เพราะวิถีกระสุนมันชัดว่า ไม่ได้กะเอาตาย นึกแล้วก็สงสารคนขับ
ตัวเองแทบตาย ยังถามนายเป็นอะไร สนธิเองก็แกล้งมีน้ำใจถามหาคนขับ
ฟังไปก็น่าสมเพช เพราะศักดิ์ศรีของคนขับรถมันก็แค่เบี้ยที่ให้เขาปั่นด้วยเงิน
ก้อนเล็ก ๆ แลกกับความจงรักภักดีต่อนาย เฮ้อ... )

และก็เหมือนกับการตัดทักษิณออกไปจากประเทศ ก็ทำให้พลังประชาชนอ่อนยวบ
คิดกันได้ง่าย ๆ ครับ ว่าตัดใคร จึงจะทำให้ฝ่ายอำมาตย์ยวบยาบ
ดังนั้น หากการปิดถนนแล้วไม่ได้ผล เพราะมันหน้าหนา เราก็เรียนรู้ ไม่ต้อง
ไปทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอีก เอากันให้ตรง ๆ ตัวครับ

เขียนมาซะยืดยาว สรุปว่า ขอบคุณครับ และเราต้องใจเย็น แต่ต้องทำ
งานอย่างหนัก เป็นระบบ หลากหลาย ตรงจุด และปิดจุดอ่อนที่เราเคยมี
ให้ได้ทั้งหมด และหากจะรุุกครั้งใหญ่ ต้องรุกฆาตเท่านั้นครับ

ความเห็นนี้ หากจะไปบาดใจพวกเรากันเอง ก็ขอกรุณาเข้าใจว่า ไม่ได้ตั้งใจ
และพวกเราก็ไม่ควรมองว่าเป็นการบั่นทอนกำลังใจกันเองด้วย เพราะ
ไม่ใช่เจตนาของผม และอันที่จริงแกนนำเราต้องวิเคราะห์เรื่องเหล่านี้ให้
ละเอียดกว่านี้หลายเท่า ส่วนผู้นำที่ผมพยายามดลใจให้เกิดขึ้น ที่เรียกว่า
เช กูเอง นี้ ขอให้มองภาพรวมให้ออก จะได้เสริมแกนนำหลัก ที่เราจำเป็น
ต้องมีในระดับใหญ่และภาพรวม

สวัสดีครับ




โพสต์โดย : kissme44
ID # 1721713 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 08:10:35 _ ปิดข้อความ


ผมพอเข้าใจแล้วครับคุณ piangdin
ยังไงก็แล้วแต่ ผมไม่อาจร่วมแนวทางต่อสู้เดียวทางกับคุณได้
แต่ถ้าคุณกล่าวมาทั้งหมดเกิดจาก
ความบริสุทธิ์ใจ อันอยากจะให้บ้านเมืองเรา
ดีขึ้น
ผมก็ขอโทษและขอบคุณ สู้ต่อไปแล้วกันครับ

เพราะยังไง อีกด้านนึงผมก็ยังเชื่อว่า สิ่งที่คุณคิดมันเกิดได้ยาก
การปฏวัติด้วยประชาชนด้วยมือเปล่า ไม่เคยสำเร็จ และโอกาสเป็นไป
ได้น้อยมาก






โพสต์โดย : kissme44
ID # 1721727 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 08:21:32 _ ปิดข้อความ


อ่อ อีกอย่าง ระวังด้านมืดนะครับ เหมือนกบเลือกนาย สุดท้ายอุดมการณ์เลิศหรู ก็กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ กลุ่มกระหายอำนาจ กลุ่มใหม่ๆ ควบคุมระบบทั้งหมดได้อีก

เหมือนระบบทักษินที่เกือบทำสำเร็จมาแล้ว (ย้ำว่าเกือบนะครับ)

ถ้าเป็นแบบนั้น พวกคุณรับผิดชอบ ผู้คนในประเทศนี้ทั้งหมด ได้มั๊ย ?




โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721769 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 08:49:51 _ ปิดข้อความ แก้ไข


คุณkissme44 ครับ ผมเชื่อเสมอว่า คนสีเหลืองที่รักในหลวง มีเหตุผล
และความรักในชาติบ้านเมือง พอ ๆ กับคนเสื้อแดง ผมไม่คิดว่าชาวบ้าน
อย่างพวกเรา ที่ไม่ได้มีประโยชน์ในธุรกิจระดับประเทศแล้วอาศัยอำนาจ
ทางการเมืองเอื้อประโยชน์ อันได้แก่ สถาบันพระมหากษัตริย์ องคมนตรี
ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจส่งออกขนาดใหญ่ ธุรกิจสื่อ และนักการเมือง (รวมทั้ง
ทักษิณด้วย) จะแปดเปื้อนอะไรมากมาย เรารักอะไรก็ว่ากันไป แต่ต้องเรียน
รู้ว่า ในที่สุดแล้วปัญหาที่อ้ายและอีข้างบนนั้นสร้าง มันตกมาถึงเราและ
จะเลยไปถึงลูกหลาน ความรับผิดขอบมันจึงไม่ใข่ของใครข้างบนนั้น
มันคือของคนอย่างผมและคุณ เราอาจจะต้องไปเสี่ยงบนเส้นทางข้างหน้า
แต่รับรองได้ว่ามันไม่ต่างจากวงจรอุบาทว์ตอนนี้หรอก และหากจะมีอะไร
เราในฐานะเจ้าของอำนาจร่วมกันก็ต้องทำงานด้วยกัน เรียนรู้ร่วมกัน
ร่วมมือกัน และให้เกียรติกัน บนพื้นฐานเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ

หากคุณสงสัยผม ขอให้ไปอ่านข้อความเดิม ๆ แล้วจะรู้จักว่าผมเสมอต้น
เสมอปลาย ผมเข้าข้างทักษิณเพราะเข้าข้างนโยบายการเอาประชาชนเป็นหัวใจ
ของการเมือง แต่ผมไม่อาจไปการันตีความบริสุทธิ์ให้เขาได้ แล้วผมก็ไม่ทำ
แต่ผมต้องขอเรียกร้องให้สังคมปฎิบัติต่ออดีตนายกฯ ให้ดีกว่านี้หน่อย
ใช้กฎหมายที่เป็นธรรม อย่ารังแกคน ๆ หนึ่งและครอบครัวเขาแบบไม่
อายฟ้าดิน

เรื่องการรับผิดชอบคนทั้งประเทศ คุณkissme44
ไม่มีใครรับผิดชอบได้ แม้แต่พระเจ้าแผ่นดิน ก็ไม่มีพระราชอำนาจ
ในการทำเยี่ยงนั้น แล้วก็อย่าไปฝากความหวังไว้กับสนธิ ลิ้ม จำลอง
นักการเมืองเลว นักธุรกิจสันดานดิบ และที่สำคัญทหารตำรวจ
พวกเราต้องรับผิดชอบร่วมกันครับ






โพสต์โดย : piangdin
ID # 1721986 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 10:59:36 _ ปิดข้อความ แก้ไข


เปลี่ยนถ่าน หรือ โค่นล้ม

ผมกำลังฟังคุณสุรชัย แซ่ด่าน ซึ่งเป็นนักปฎิวัติสังคมนิยมในสายเลือดพูดครับ

สิ่งที่ผมสรุปสำหรับตัวเองคือ
เราพยายามช่วยให้เกิดการเปลี่ยนถ่าน
แต่ในเมื่ออำมาตย์มันไม่ยอม และกำลังทำลายไปเรื่อย ๆ
ในที่สุด อาจจะนำไปสู่การโค่นล้ม

ดังนั้น เราต้องนวดไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลากลืนในที่สุด

แกนนำเราคงได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเรื่องที่ผ่านมา
และหวังว่า ทุกย่างก้าวต่อไปนี้ อำมาตย์หนาวในหน้าร้อน

วันนี้ ท่านอยากเป็น เช กูเอง... หรือยัง?
ผมไม่ใช่อยากให้เกิดการนองเลือดและใช้กำลังนะครับ
หากจะมีคนแย่งอำนาจกันด้วยกำลังอาวุธ
ประชาชนสีแดงและเหลือง และอีกหลายสี ต้องประสานกันให้ได้
ผมเชื่อว่า คนที่เป็นสีเหลือง เชื่อแบบบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์
พวกเขาสามารถเข้าใจปัญหาบ้านเมืองใหม่ได้... และเข้ามารวมกัน
เป็นพลังประชาชน.... เราอย่าเป็นกวางชนกันให้นายพรานเอาไปเชือด

กระแสปฎิวัตินี้ ขอให้พวกเราทุกคน จงจำไว้ว่า ยุทธศาสตร์เราอย่างหนึ่ง
คือรวมใจประชาชนทุกสีให้เป็นสีประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่แค่สีเดียว
เราต้องรุกไปในใจของคนสีเหลือง และคนที่ไม่มีสีอะไรให้ได้ แล้วดึง
พวกเขาให้สำนึกว่า เขาคือประชาชน เจ้าของอำนาจ และพวกเขาถูก
ทุกกลุ่มผลประโยชน์เบื้องบน manipulated มาตลอด และการจะแก้ป้ญหา
ที่คนพวกนั้นสร้างมานั้น ประชาชนเราต้องลุกขึ้นมาพร้อมกัน ไม่ใช่กัดกันดะ
เหมือนหมาบ้า หรือชนกันมั่วเหมือนกวาง แล้วก็ถูกเชือดพร้อมกัน...

คืนนี้ผมขอตัวแล้วครับ









โพสต์โดย : Rustynail
ID # 1722039 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 11:18:43 _ ปิดข้อความ


ผม ก้อเห็นด้วยนะ แต่ใครล่ะครับ ที่จะทำได้ เราเป็น ประชาชนต้องทำมาหากิน มีลูกเต้า ต้องรับผิดชอบ ถ้า ชนกัน จริงๆ แพ้ แน่ ครับ เพราะ ไม่มีใครกล้า เสี่ยง อย่า ลืม คน ส่วนมากของ ประเทศทำมาหา กิน อำมาตย์ ครอง ประเทศ ในทุกๆ ด้าน เขา สามารถ จัดเก็บ พวกคุณ อุ้ม ออกไปเก็บ ได้ ทุกๆ ที่ ถ้าคุณ ชักกระด้าง กระเดื่อง เคลื่อนไหว เป็น แกนนำแล้ว เรื่องราวของคุณ ก็จะเลือนหายไปตามกาลเวลา สิ่งนี้แหละ มันทำให้ ประชาชนธรรมดา กลัว และไม่กล้า เอาจริงๆ นะ ทุกวันนี้ ผมไม่ได้ มีความรู้สึกแบบนี้ เพื่อคุณทักษิณ แต่ ผม มองไม่เห็นใครที่จะมานำพวกเรา เพื่อการนี้ เหมาะเท่าท่านอีกแล้ว อยากให้เอาจริงๆ กันไปเลย เหมือนอย่างในประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาทำกัน แต่บ้านเรา มันมีความเชื่อที่ไม่ตรงกัน คนส่วนมาก ในประเทศ โดยเฉพาะ คนรุ่นพ่อ แม่เรา ยังศรัทธากับสถาบัน และคำสอนที่คล้ายกับนิยาย ปรัมปรา สมมุติเทพ กันอยู่ และ คนเหล่า นี้ บางท่านดำรงตำแหน่งในระดับ ผู้บังคับบัญชา มันเป็นเรื่องยากจริงๆ ที่จะเปลี่ยน ในเร็วๆ นี้ สิบปีข้างหน้า ก้อ ยังคงเป็นแบบนี้ มีอย่างเดียว คือการหักดิบ โดยคนที่มีแนวคิดเดียวกัน ไม่มีที่ไหนที่ได้ประชาธิปไตยมาโดย ไม่มีการนองเลือด หรอกครับ อันนี้เรื่องจริง.





โพสต์โดย : piangdin
ID # 1722130 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 11:50:18 _ ปิดข้อความ แก้ไข


กระซิบให้คุณRustynail ครับ

(((ทำใต้ดิน ทำใต้ดิน ทำใต้ดิน )))
(((ทำเท่าที่ทำได้ ทำเท่าที่ทำได้)))
(((ทำแบบไม่ต้องผิดกฎหมายก็ได้)))
(((ทำแบบนักปราชญ์)))
(((ทำในครอบครัวและญาติพี่น้องเงียบ ๆ)))
ฯลฯ




โพสต์โดย : mon Dieu
ID # 1722439 - โพสต์เมื่อ : 2009-04-21 13:56:02 _ ปิดข้อความ


เช กูเอง
ทุกคนมีความสามารถทางความคิด
ใครคิดทำอะไรได้ ก็ทำ
ต่างคนหลากหลายรูปแบบ

No comments:

Post a Comment